23 พฤศจิกายน 2557

Day 3-4: Kyoto Aoi Matsuri

Day 1: Osaka กุหลาบงามกลางเดือนพฤษภาคม
Day 2: Osaka Amazing Pass
Day 3-4: Kyoto Aoi Matsuri
Day 5: Nara and Night bus to Kawaguchiko
Day 6: Kawaguchiko มาปั่นจักรยานกันเถอะ
Day 7: Fuji Shibazakura Festival
Day 8-11: Tokyo (1)
Day 8-11: Tokyo (2) - Kawasaki

∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇

:: Kansai Thru Pass // Day 2
:: เพื่อนชาวเกียวโตอาสาพาเที่ยว

ขอรวบวันที่ 3-4 ในเกียวโตเข้าไว้ด้วยกันเลย เพราะเป็นช่วงวันที่ชิลสุดๆ พยายามซึมซับบรรยากาศแบบเกียวโตเอาไว้มากๆ + วันที่ 15 (Day 3) มีฝนตกลงมาแทบตลอดทั้งวัน ทำให้เที่ยวได้น้อย (บรรยากาศมันน่าขี้เกียจเอามากๆ)

วันนี้เรากับเพื่อนออกเดินทางจากโอซาก้ามาที่เกียวโตโดยใช้ Kansai Thru Pass เป็นวันที่ 2
การเดินทางจากโอซาก้าไปที่เกียวโตโดย KTP จะเดินทางโดยใช้รถไฟสาย Hankyu 
จากโรงแรม Toyoko Inn Shinsaibashi Nishi เราจะเดินทางไปยังสถานี Umeda (Subway) จากนั้นเดินไปที่สถานี Umeda (Hankyu) แล้วนั่งรถไฟสายนี้รวดเดียวไปถึงเกียวโตเลยค่ะ ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ช่วงที่ต้องเดินจากสถานี Umeda ที่เป็น subway ไปที่ Umeda ที่เป็นสาย Hankyu เราแอบหลงกันเบาๆ ค่ะ ....ก็เดินตามป้ายจนออกจากสถานีแล้ว หลังจากนั้นเกิดอาการงงว่าต้องไปทางไหนต่อ ซึ่งพลาดมาก มีเจ้าหน้าที่อยู่ก็ไม่ถาม มี internet ก็ไม่ยอมเปิด Google map นำทาง เดินออกมาเห็นขบวนรถไฟวิ่งอยู่ไกลๆ คิดกัน(ไปเอง)ว่า นั่นเลย ชัวร์! 
ว่าแล้วก็เดินกันไป จนถึงรางรถไฟ จึงค้นพบว่า 1. มันไม่มีตัวสถานี มันมีแต่ราง! และ 2. มันไม่ใช่สาย Hankyu แต่มันเป็น JR!
หมดแรง!!!
ว่าแล้วก็เปิด Google maps นำทางจ้าาา (ควรเปิดตั้งแต่ทีแรกแล้ว)
ปรากฏว่าจริงๆ จากตัวสถานี Umeda (subway) เดินไปนิดเดียวก็ถึงที่เป็นสาย Hankyu แล้วค่ะ เราดันไปเดินหลงซะอ้อมโลกเลย

ดังนั้น คำแนะนำ คือ ไม่รู้จักทางให้รู้จักถาม  ไม่งั้นจะเดินเหนื่อยฟรี

ตัดฉับมาที่เกียวโต

ที่เกียวโต เราจะพักกันที่ Toyoko inn Shijo-Karasuma 
หลังจากเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมแล้ว ก็เกือบ 11 โมงแล้วค่ะ
เป้าหมายหลักของเราในวันนี้อยู่ที่ เทศกาล Aoi Matsuri

เทศกาล Aoi Matsuri

เทศกาล (มัตสึริ) ของเกียวโตมี 3 เทศกาลสำคัญ คือ Gion Matsuri, Jidai Matsuri และ Aoi Matsuri (Hollyhock festival)

สำหรับเทศกาล Aoi Matsuri จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี 

ข้อมูลของเทศกาล Aoi Matsuri
<<http://www.japan-guide.com/e/e3948.html>>
<< http://www.marumura.com/food/?id=1050 >>

ตอนที่ไปเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเทศกาลนี้เลยค่ะ (กลับมาก็ยังไม่รู้ 555+)
รู้แต่ว่าเทศกาลนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี ถ้าฝนตกก็อาจจะเลื่อนไปวันที่ 16 พฤษภาคม - - - ลุ้นมากค่ะ ดูพยากรณ์อากาศบอกว่าวันที่ 15 ที่เกียวโตจะมีฝนตก แต่เหมือนจะตกไม่หนัก เลยไม่รู้ว่าอะไรยังไงกันแน่ โชคดีที่เพื่อนที่เป็นคนเกียวโตคอยเช็คให้ตลอด จนเช้าตรู่วันที่ 15 เพื่อนก็คอนเฟิร์มว่าจัด 15 ไม่เลื่อนแน่ๆ

Aoi Matsuri เป็นเทศกาลที่เงียบมากค่ะ เงียบในที่นี้ คือ ไม่มีเสียงอะไรเลยจริงๆ
ลักษณะจะเป็นขบวนแห่ แต่คนในขบวนจะเดินกันเงียบๆเลยค่ะ ไม่มีเสียงจังหวะกลองดนตรีหรืออะไรเลยแม้แต่น้อย
เส้นทางการแห่ขบวนจะเริ่มต้นจาก Kyoto Imperial Palace ไปที่ศาลเจ้า Shimogamo จากนั้นก็จะมีการทำพิธีภายในศาลเจ้า Shimogamo จนถึงประมาณบ่าย 2 โมง แล้วจึงเคลื่อนขบวนแห่ไปที่ศาลเจ้า Kamigamo ค่ะ



อย่างที่บอกเราไปถึงเกียวโตก็เกือบ 11 โมงแล้ว ดูจากแผนที่ด้านบนก็เลยคุยกับเพื่อนว่าเราจะไปดักขบวนกันที่หน้าศาลเจ้า Shimogamo

การเดินทางไป ง่ายมากค่ะ เราใช้วิธีเดินตามฝูงชน 5555+
แทบทุกคนที่เราเห็นจะมีแผนที่คล้ายๆ กับด้านบนนี้อยู่ในมือค่ะ เราก็เดินตามไปเรื่อยๆ โดยเน้นที่แม่นางน้อยในชุดกิโมโนนางหนึ่งเป็นหลัก

แม่น้องนางนำเราเดินไปจนถึงสถานี Gion-Shijo (Keihan) จากนั้นนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Demachiyanagi พอออกจากตัวสถานีจะเห็นทางเข้าศาลเจ้า Shimogamo เลยค่ะ

คนเยอะมากกกกกกกกกกก
หญิงที่มีความสูงน้อยอย่างเราลำบากมากมายค่ะ มองแทบไม่เห็นอะไรเลย ก็พยายามหาที่อยู่และแทรกตัวไปเรื่อยๆ จนในที่สุดถูกฝูงชนดันไปที่บนสะพานค่ะ
วิวนี้คือชัดเจนมากกกก ไม่มีคนบังเลย
แต่สักพักคุณพี่ตำรวจก็เริ่มมาไล่ไม่ให้ยืนบนสะพาน (เดาจากท่าทางเอาค่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเลย) แต่ก็ยังคงมีคนหลั่งไหลมาที่สะพานอย่างต่อเนื่อง รูปที่เราถ่ายได้ ส่วนใหญ่ถ่ายจากบนสะพานนี้แหละค่ะ







สำหรับคนที่อยากเกาะติดภาพขบวนแห่โดยไม่ต้องเบียดเสียดฝูงชนมากนัก สามารถจองที่นั่งบริเวณด้านหน้าพระราชวังและศาลเจ้า Shimogamo ราคา 2,000 เยน และที่ศาลเจ้า Kamigamo ราคา 1,000 เยนค่ะ

พอขบวนแห่เข้าไปในศาลเจ้าทั้งหมดแล้ว ฝูงชนเริ่มสลายตัว ก็ค้นพบ....



นั่งพัก ถ่ายรูป เดินข้ามแม่น้ำกันอยู่พักใหญ่ๆ (โมเม้นท์การ์ตูนญี่ปุ่นอีกแล้ว > < )



จนเริ่มหิวค่ะ ก็ไปหาอะไรทานกันแถวๆนั้น
ปรากฏว่าออกมาฝนเริ่มตกหนักขึ้นค่ะ มองหน้าเพื่อน เอาไงดี?

ตัดสินใจไปวัดน้ำใส Kiyomizudera กันต่อค่ะ
โดยการนั่งรถบัส search google maps กันตรงนั้นเลยว่าต้องนั่งสายอะไร พี่ Google ว่าอย่างไร เราก็ไปตามนั้น
เดินๆๆๆๆๆ
จนถึงด้านหน้าวัด สุดท้าย ตัดสินใจ ไม่เข้า!!!

ถ้าถามว่าเหนื่อยมั้ย

ขอบอกเลยว่า มาก !!!!

วันนี้นัดเพื่อนไว้ค่ะ เพื่อนจะพาไปเลี้ยงข้าว
เพื่อนเป็นคนเกียวโตค่ะ จริงๆ เป็นเพื่อนของเพื่อนเราที่ไปด้วยกันอีกทีนึง หลายต่อเหลือเกิน ฮาาาา
เพื่อนน่ารักมากค่ะ นอกจากจะพาเรากับเพื่อนไปเลี้ยงข้าวแล้ว อีกวันนึงยังอุตส่าห์ลางาน ขับรถพาเรากับเพื่อนเที่ยวด้วย

ร้านอาหารที่เพื่อนพาไปเลี้ยงอยู่ย่าน Pontocho (เพิ่งรู้หลังจากกลับมาเมืองไทยว่ามันชื่อนี้) สามารถเดินไปจาก Toyoko inn Shijo-Karasuma ได้เลยค่ะ

เอาจริงๆ เข้าใจมาตลอดว่าที่นี่คือ Gion
จนกระทั่งกลับมาเมืองไทยหาข้อมูล (อย่างที่บอก ไปกระทันหันมาก หาข้อมูลไปน้อยมากๆ)
ถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่อ่ะ จอร์จ
ย่าน Gion ต้องข้ามแม่น้ำไปอีก

จบวันนี้ ด้วนความเฮฮาค่ะ

วันต่อมา เราจะไปเที่ยวเกียวโตกันแบบจริงจังแล้ว

เรื่องการเดินทาง เราคงแนะนำอะไรไม่ได้เลยค่ะ
เพื่อนเราขับรถพาเที่ยวทั้งวันเลย ไม่มีโอกาสได้สัมผัสขนส่างสาธารณะของเกียวโตเลยวันนี้

สภาพการจราจรโอเคมากค่ะ รถไม่ติดเลย มีแต่ติดไฟแดงเอง
แต่ที่ลำบากคือตอนหาที่จอดรถที่วัดทองค่ะ วนอยู่หลายรอบมากๆ

เริ่มต้นที่ วัดทอง Kinkakuji
ไปตามหาอิ๊กคิวซังกัน เฮ้ย! ม่ะใช่แล้ว


คนไทยเยอะมากกกกกกกก ใครไปไม่เจอทัวร์ไทยเลย แปลว่าไปผิดที่ 555+
นักเรียนก็เยอะค่ะ สงสัยมาทัศนศึกษากัน (เจอเกือบทุกที่เลย)
ขาออกเจอน้องๆ สัมภาษณ์ฝรั่งด้วย (สงสัยเป็นการบ้านให้ทำส่งอาจารย์แน่ๆ)

Nijo-jo


จุดเด่นของที่นี่ อยู่ที่พื้นค่ะ
ประมาณว่า ถ้ามีคนบุกรุกมา พื้นมันจะมีเสียงค่ะ (หน้านินจารันทาโร่ลอยขึ้นมาเลยค่ะ - - เคยดูกันมั้ย การ์ตูนเก่ามากแล้ว 555+)
ตอนแรก เราไม่รู้หรอก แต่น้องๆ นักเรียนที่เดินนำหน้าเรา เค้าเล่นกันใหญ่เลย ท่าทางสนุก เราเลยหันไปถามเพื่อนว่ามันคืออะไร พอฟังแล้ว เฮ้ยยยยยย มันมีเสียงจริงๆ ด้วย

พื้นที่ที่นี่กว้างมากค่ะ ใช้เวลาค่อนข้างพอสมควรเลย


ออกจากที่นี่
เพื่อนพาไปทาน ซูชิเวียนค่ะ
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปชื่อร้านมา เพราะมันไม่ใช่ซูชิจานเวียนธรรมดา แต่มันอบบสนุกตรงที่มีกาชาปองให้เล่นด้วย

ที่โต๊ะแต่ละโต๊ะ จะมีตู้กาชาปองอยู่ด้วยค่ะ
เวลาใส่จานซูชิที่เราทานเสร็จแล้วกลับลงไปคืนในระบบครบ 5 จาน เกมส์จะเล่นเองอัตโนมัติ
ถ้าโชคดี เราจะได้ของเล่นในกาชาปองมาค่ะ เราเล่นกันไป 3-4 รอบ ได้มาอันนึงคือตอนเล่นรอบแรก 555+

ต่อที่ วัดน้ำใส Kiyamizudera



ศาลเจ้า Fushimi Inari




ตบท้าย เพื่อเซอร์ไพร์ส พาขับรถขึ้นเขาดูวิวเกียวโตตอนกลางคืนค่ะ


กลับมาถึงโรงแรม เรากับเพื่อนยังไม่จบค่ะ จะอยู่เกียวโตเป็นคืนสุดท้ายนิ่เนอะ
เดินไปที่แม่น้ำ Kamo กันอีกรอบ ไปเดินย่านเดิม คือ ย่าน Pontocho
แต่คราวนี้ไปเดินลัดเลาะกันข้างในไปอีก เจอคลองเล็กๆด้วย

p.s. ขากลับโรงแรม เจอแว๊นซ์ญี่ปุ่นด้วย เปิดเพลงด้วยเครื่องเสียงสนั่นเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น