08 มีนาคม 2559

Day 2: Universal Studio Japan (USJ) กับบัตรเบ่ง Express Pass 5

Kansai Sakura Trip 2015
Day 0-1 : ประสบการณ์นอนที่สนามบินคันไซกับครั้งแรกที่ Himeji
Day 2: Universal Studio Japan (USJ) กับบัตรเบ่ง Express Pass 5
Day 3: ตามล่าซากุระที่ Osaka แล้วไปช็อปปิ้งซอยละลายทรัพย์ Tenjinbashisuji
Day 4-7: ชมซากุระสุดฟินที่ Kyoto


∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇

ตั้งแต่ Universal Studio Japan (USJ) เปิดให้โซน Harry Potter เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2014 
USJ ก็เป็นเหมือนจุดมุ่งหมายหลักอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง
สำหรับคนไทยรวมถึงเราเองก็ย่อมไม่พลาดแน่นอนอยู่แล้ว

เมื่อพฤษภาปี 2014 (ก่อนเปิดโซน Harry) เราไปญี่ปุ่น USJ ไม่อยู่ในหัวสมองเราแม้แต่นิด เพราะเราเคยไป Universal Studio Singapore หรือ USS มาแล้ว และตอนนั้นหลังจากอ่านหลายๆรีวิว เกือบทุกเสียงยืนยันว่า USS เครื่องเล่นสนุกกว่า USJ เพราะ USS เปิดทีหลัง เครื่องเล่นเลยใหม่กว่า ดูสนุกมากกว่า)
แต่พอมีโซน Harry ความคิดเราก็เปลี่ยนไป...

หลังจากเราพยายามจัดแพลนเที่ยวอย่างบ้าคลั่ง โดยพยายามหลีกเลี่ยงการไป USJ ในวันเสาร์-อาทิตย์ ในที่สุดเราก็ได้วันที่จะไป USJ มา ถึงแม้จะไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ เพราะแผนแรกของเราวันที่จะไป USJ นั้นตรงกับวันอังคารของสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษา ซึ่งเมื่อเช็คจำนวนคาดการณ์คนเข้าชม USJ แล้ว พบว่าคนค่อนข้างน้อยกว่าวันในสัปดาห์แรกของเดือนเมษาอย่างมาก
แต่ด้วยเหตุจำเป็น เนื่องจากไม่สามารถจองที่พักได้ตามแผนการที่วางไว้ทำให้ต้องสลับแพลนเที่ยวโอซาก้าในอาทิตย์แรกของเดือนเมษาและอาทิตย์ที่สองไปเที่ยวเกียวโตแทน

เว็บพยากรณ์จำนวนคนเข้า USJ >> http://www15.plala.or.jp/gcap/usj/
เว็บหลัก >> https://www.usj.co.jp/e/

เมื่อตัดสินใจว่าจะไป USJ ขั้นแรกเลยก็คือการหาข้อมูลเรื่องตั๋วเข้า USJ และบัตรต่างๆ

สำหรับ USJ นอกจากตั๋วเข้าแล้ว จะมีบัตรอีกแบบ เรียกว่า Express pass หรือเราเรียกว่าบัตรเบ่งค่ะ
2 บัตรนี้แยกกันนะคะ ต่อให้ซื้อ Express pass แล้วก็ยังต้องซื้อตั๋วเข้าอีกใบนึงด้วย ตัว Express pass จะเป็นแค่บัตรเบ่งให้เราสามารถเข้าเล่นเครื่องเล่นบางเครื่องได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องไปต่อคิวปกติที่คนอื่นต่อกัน

ตั๋วเข้า USJ 
ตั๋วเข้า USJ จะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบ 1 day กับ 2 day
ปัจจุบันราคาตั๋วผู้ใหญ่ อยู่ที่ 7400 และ 12450 เยนตามลำดับค่ะ 
(ที่ต้องบอกว่าปัจจุบัน เพราะเราคุ้นๆว่าปีที่แล้วราคาตั๋วแบบวันเดียวอยู่ที่ 7200 เยนนะคะ)

วิธีการซื้อตั๋วมีหลายแบบค่ะ อาจจะไปซื้อด้านหน้าสวนสนุกในวันที่ไปเลยก็ได้หรืออาจจะซื้อล่วงหน้าไปจากเมืองไทยเลยก็ได้

หลังจากหาข้อมูลอยู่พักนึง เราก็ตัดสินใจจะซื้อตั๋วไปจากเมืองไทยเลยค่ะ โดยมีเงื่อนไขว่าเอเจ้นท์ที่เราจะซื้อนั้นจะต้องได้บัตรจริงเลย ไม่ต้องไปแลกที่ด้านหน้าสวนสนุกอีก เพื่อประหยัดเวลาค่ะ 

ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่มีงาน Japan Expo ที่พารากอน กับงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก (TITF) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ เราก็ไปดูจาก 2 งานนี้นี่แหละค่ะ
จากการสำรวจของเรา ถ้าใครมุ่งมั่นจะหาแพ็คเกจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแนะนำให้ไปงานหลังนะคะ เพราะงาน Japan expo จะเน้นไปเรื่องการหางานกับการเรียนต่อในญี่ปุ่นมากกว่า เรื่องท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย
หลังจากเราเดินสำรวจราคาทั้งงาน (ที่ได้บัตรจริง) แล้ว ราคาทุกที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก คือ 2000 บาท ( *****ดอกจันสามร้อยดอก ราคาตั๋ว USJ จะขึ้นอยู่กับค่าเงินในขณะนั้นๆด้วย ช่วงที่เราไปซื้อ ค่าเงินอยู่ที่ .27X ค่ะ ดังนั้น ถ้าช่วงที่คุณไปราคาสูงกว่านี้ กรุณาดูอัตราแลกเปลี่ยนด้วยนะคะ)
เราเลยเลือกที่ที่สามารถตัดบัตรเครดิตได้โดยไม่ชาร์จค่ะ ซึ่งเราเจอ 2 ที่ คือ Compax กับ JTB
ที่ Compax ทีแถมที่ใส่พาสปอร์ต ส่วน JTB แถมแฟ้มลาย Harry potter
สุดท้าย เราเลือกซื้อที่ JTB เพราะคนขายน่ารักค่ะ ผู้หญิงนะคะ นางขำดี เราชอบ 555+

ตัวตั๋วที่ได้มาจะหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ มีหลายลาย ใครจะได้ลายไหน ดวงล้วนๆ
ข้อดีของบัตรที่ซื้อมา นอกจากทำให้ไม่ต้องไปเข้าคิวซื้อบัตรด้านหน้าสวนสนุกแล้ว ยังเป็นบัตรแบบที่ไม่ต้องระบุวัน จะนำไปใช้วันไหนก็ได้ (แต่ต้องไม่เกินวันที่กำหนดไว้ในบัตรนะคะ)



Express pass 
อย่างที่บอกไปด้านบน Express pass คือบัตรเบ่งค่ะ 
การเล่นเครื่องเล่นต่างๆโดยเฉพาะเครื่องเล่นฮิตๆ คนจะเยอะมาก ต้องใช้เวลารอค่อนข้างนาน แต่ถ้าเรามี express pass มันจะมีเลนพิเศษให้เราโดยเฉพาะเลยค่ะ เป็นเหมือนทางด่วนนั่นแหละค่ะ (เป็นทางด่วนที่ราคาแพ้งแพง)

ถ้าไม่อยากซื้อ express pass แต่อยากได้เลนพิเศษ มีอีกเลนค่ะ เรียกว่า single drive คือเป็นเลนสำหรับคนที่มาคนเดียว --- ปกติ เครื่องเล่นต่างๆ มันอาจจะมีที่นั่งในแถวถึง 4 ที่ แต่กรุ๊ปที่ไปเที่ยวอาจจะมี 3 คนใช่มั้ยคะ พนักงานจะดึงคนจากเลน single drive มาเติมตรงที่นั่งนั้นค่ะ
แต่ข้อเสียคือ single drive ไม่ได้มีทุกเครื่องเล่น และไม่ใช่ว่าจะมีตลอดค่ะ ต้องสังเกตเอาเอง

ตอนที่เราไป Express pass จะมี 3 แบบ คือ Express pass 3, Express pass 5 และ Express pass 7 ค่ะ
ตัวเลขที่ตามหลังคือจำนวนเครื่องเล่นที่เราจะสามารถใช้เลนพิเศษได้ค่ะ ซึ่งไม่ใช่ว่าเราจะสามารถเลือกได้นะคะว่าจะเล่นเครื่องเล่นไหนบ้าง แต่ในแต่ละบัตรจะมีกำหนดมาให้เลยว่าเครื่องเล่นไหนบ้างที่เราจะใช้บัตรนี้ได้บ้าง

เช่น Express pass 5 เครื่องเล่นที่สามารถใช้บัตรนี้ได้ คือ 
1. Harry Potter and the Forbidden Journey
2. The Amazing Adventures of Spider-Man - The Ride
3. Hollywood Dream – The Ride หรือ Backdraft (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
4. JAWS® หรือ Back To The Future - The Ride (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
5. Jurassic Park – The Ride หรือ Terminator 2:3-D (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
และสามารถกำหนดเวลาในการเข้าโซน Harry ได้ โดยระบุเวลาตั้งแต่ตอนซื้อ (อย่างไรก็ตาม ตอนที่เราซื้อ เค้าจะมีเวลาให้เลือกค่ะว่าจะเลือกช่วงเวลาไหน ซึ่งบางช่วงเวลาหากมีคนเลือกก่อนหน้าเราไปแล้วจนเต็มโควต้าที่เค้ากันไว้ให้ เวลาช่วงนั้นก็จะไม่ขึ้นให้เราเลือกอีกค่ะ - - - รู้เพราะเคยกดเข้าไปลองซื้อดูรอบนึง เวลามีให้เลือกตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่พอใกล้ๆจะไป กดเข้าไปซื้อจริง เวลาจะเหลือแค่บางช่วงค่ะ แต่ตอนปลายๆปีที่แล้ว ได้ข่าวว่าเค้าเปลี่ยนวิธีค่ะ คือจะไม่ให้เราเลือกเวลาเองแล้ว แต่จะกำหนดเวลามาให้เลยว่าจะต้องเข้าโซน Harry ช่วงไหน)

ราคาของ Express pass นั้นจะมีลักษณะเป็นช่วง จะราคาสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นๆคนจะเยอะหรือน้อยค่ะ ถ้าวันไหนคนเยอะมากๆ ราคา Express pass ก็จะแพงตาม
Express pass 3 (3300 - 4500 yen)
Express pass 5 (5200 - 7200 yen)
Express pass 7 (6600 - 9800 yen)

การซื้อ Express pass นั้น เราสามารถซื้อได้ด้วยตัวเองได้เลยค่ะ โดยเราทำตามกระทู้นี้เลยค่ะ อธิบายวิธีการไว้ดีมากๆ (การซื้อ Express pass ต้องซื้อผ่านหน้าเว็บ USJ ภาษาญี่ปุ่นนะคะ ถ้าเลือกเป็นภาษาอังกฤษ จะไม่มีปุ่มขึ้นให้กดซื้อค่ะ) >> [CR]**Review** การซื้อตั๋ว Express pass ของ USJ ด้วยตัวเอง Step by Step
พอซื้อเสร็จ ก็จัดการ print ออกมาเป็น A4 เลยนะคะ แต่พอเวลาใช้จริง พับๆๆ ให้เห็นเฉพาะ QR code ก็ได้ค่ะ เค้าจะใช้สแกนแค่ตัว QR code อย่างเดียว ไม่ได้ดูอย่างอื่น

เอาล่ะ นี่คือเรื่องของตอนที่เราไปมา

แต่ แต่ แต่

ตอนที่เขียนบล็อกนี้ เราได้เข้าไปดูในเว็บของ USJ พบว่า Express pass 3, 5 และ 7 จะจำหน่ายถึงแค่วันที่ 17 มีนาคม 2016 ซึ่งก็คือปีนี้เท่านั้น!!
หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็น Express 4 (4500 - 8100 yen) และ Express 7 (6900 - 13200 yen) โดย Express pass 4 จะแบ่งย่อยเป็นอีก 2 แบบ (ต่างกันที่เครื่องเล่นที่ใช้บัตรได้) กับ Express pass 7 อีก 3 แบบ 
เราไม่ได้ดูละเอียดว่าอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ยังไงสามารถดูรายละเอียดได้ที่ >> https://www.usj.co.jp/e/ticket/ เลยค่ะ

จะเห็นว่าเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ยังไงอัเพดทกันด้วยนะคะ
เข้าใจว่าวิธีการซื้อ Express pass ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างอยู่เหมือนกัน ต้องเช็คกันดีๆด้วยนะคะ

จบเรื่องการเตรียมตัวไป คราวนี้ขอพูดถึงวันไปกันบ้าง

ช่วงวันที่ไปนั้น USJ มี event พิเศษ คือ Universal cool Japan หนึ่งในนั้น คือ Attack on Titan ค่ะ เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เลยแวะเข้าไปถ่ายรูปเล่นเฉยๆ แต่คนในโซนนี้เยอะมากกกกกก เข้าใจว่าเรื่องนี้น่าจะดังอยู่ (เพื่อนๆผู้ชายเราที่เห็นเราไปตรงกับช่วงนี้ คือ อิจ กันมาก ---- แต่เราไม่อินไง เลยไม่เข้าใจ 5555+)



วันนั้น พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกค่ะ ซึ่งก็ตกจริงๆ ทำให้อากาศหนาวมากกกกกกกกก ช่วงเช้ายังไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่ช่วงบ่ายที่เข้าไปในโซน Harry คือแบบแย่เลยค่ะ 
ตอนแรกอยากเล่นฮิปโปกริฟด้วย  แต่ด้วยอากาศอันหนาวเหน็บ พร้อมฝนโปรยปราย คือสู้ไม่ไหวจริงๆ แต่เห็นคนญี่ปุ่นบ่ยั่นกันมาก อากาศแบบนี้ เค้าคงชินด้วย (แต่คนเมืองร้อนและขี้หนาวอย่างเราไม่ชินค่ะ)

พูดถึงคนญี่ปุ่น ช่วงตอนฝนตกนี่เราได้เดินเข้าไปในโซน snoopy ซึ่งเป็นโซนที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กเยอะๆ เราค่อนข้างทึ่งในการดูแลเด็กของคนญี่ปุ่นมากๆเลยค่ะ 
ถ้าฝนตกขนาดนี้เป็นเมืองไทย เราเชื่อว่าพ่อแม่เด็กมีเรียกให้หลบฝนแล้ว ไม่ให้ไปเล่นเครื่องเล่นกลางแจ้งอย่างแน่นอน
แต่ที่เราเห็นนี่คือ พ่อแม่ก็ยังคงปล่อยให้ลูกๆ เล่นเครื่องเล่นต่อไป อาจจะแค่ไปซื้อเสื้อกันฝนมาใส่ให้ แค่นั้นจบ ไปเล่นต่อได้ ถึกมากๆค่ะ เด็กๆ 
เสื้อกันฝนที่เราเห็นขายในโซนนี้คือน่ารักมากกกกกก มี snoppy กับ sesame ค่ะ แล้วมีขนาดตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เลย 

คราวนี้มาพูดถึงเครื่องเล่นบ้าง (เท่าที่จำได้นะคะ)
อย่างที่บอกไปว่าเรามี Express pass 5 ดังนั้นเครื่องเล่นที่เราเล่นก็จะอยู่ในการใช้ pass นี้เป็นหลักค่ะ (ใช้ไม่ครบด้วย เพราะเราเป็นสายถ่ายรูป มากกว่าเล่นเครื่องเล่นค่ะ)

อันแรกที่เราไปเล่น คือ The Amazing Adventures of Spider-Man อันนี้สนุกค่ะ คล้ายๆกับ Transformer ที่ USS (แต่ Transformer สนุกกว่า) เราจะตกไปอยู่ในการต่อสู้ของสไปเดอร์แมนกับตัวร้าย ไม่หวาดเสียวมากนะคะ กำลังดี (ปกติเครื่องเล่นที่หวาดเสียวมากๆอย่างพวกรถไฟเหาะตีลังกา อะไรแบบนี้ เราไม่เล่นค่ะ เรากลัว (นอกจากโดนหลอกไปเล่น))

Harry Potter and the Forbidden Journey อันนี้ก็สนุกค่ะ คล้ายๆกับ Spiderman กับ Transformer อยู่เหมือนกัน แต่จะหวาดเสียวกว่าเล็กน้อย เพราะตัวเก้าอี้ที่นั่งจะเป็นลักษณะนั่งห้อยขาค่ะ ขาเราจะฟรีอยู่ในอากาศ เหมือนเรากำลังขี่ไม้กวาดอยู่

Back To The Future อันนี้น่าเบื่อมากเลยค่ะ คือถ้าเราต้องไปต่อคิวปกติเพื่อเล่นอันนี้ แล้วเล่นเสร็จ เราคงเสียดายเวลา

Show: Shrek / Sesame Street อันที่เราดูคือโชว์ของ Sesame ค่ะ เพราะเราเคยดู Sherk ที่ USS มาแล้วเลายเปลี่ยนบ้าง ซึ่งไม่รู้เพราะฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก (ตอนดู Sherk ที่ USS เป็นภาษาอังกฤษค่ะ) หรือเพราะมันไม่สนุกจริงๆกันแน่ เราว่า Sherk ดีกว่าค่ะ

Terminator 2:3-D อันนี้เป็นอีกอันที่ช่วงแรกใช้ภาษาญี่ปุ่นเยอะมากๆ คนญี่ปุ่นก็เฮฮากันไป ส่วนเรางงค่ะ เอ๋ เค้าพูดอะไรกัน 5555+ ระหว่างการโชว์ จริงๆก็ใช้ได้ค่ะ แต่พอดูไปสักพัก เราหลับค่ะ เพื่อนเราก็หลับ สามัคคีกันมาก 555555+

นี่เป็นภาพบรรยากาศบางส่วนค่ะ บางคนเค้าจัดเต็มชุดพ่อมดแม่มดมาเลยนะคะ ชอบมาก
ส่วนอีกสิ่งที่พลาดไม่ได้ของ USJ คงเป็น Butter beer ค่ะ อร่อยผิดคาดมากๆ ใครไป ต้องลองนะคะ แนะนำๆ

ส่วนจุดถ่ายรูปฮอกวอตต์ที่ห้ามพลาด (แต่เราพลาดไปแล้ว) คือ โซนกลางแจ้งของร้านไม้กวาดสามอัน ซึ่งเป็นร้านอาหารค่ะ เวลาถ่ายรูปจะเห็นตัวปราสาทสะท้อนน้ำพอดี เราเสียดายมากกกกก เพราะไปนั่งในร้านนี้อยู่ตั้งนาน แต่ไม่ได้เดินออกไปโซนกลางแจ้ง นั่งอยู่แต่ในร้าน อย่าพลาดเหมือนเรากันนะคะ

นึกไม่ค่อยออกแล้วค่ะ ถ้านึกอะไรออกอีกจะมาเพิ่มทีหลังนะคะ :D






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น