20 เมษายน 2561

ไปญี่ปุ่น...ใช้ INTERNET Sim ค่ายไหนดี? (AIS Sim2Fly/ Dtac Go inter/ True Travel sim)

การใช้งานอินเตอร์เน็ตในทริปญี่ปุ่นก่อนๆหน้านี้ เราจะใช้เป็น pocket wifi ซะส่วนใหญ่ 
แต่ pocket wifi มีข้อเสียคือต้องแบกตัวปล่อยสัญญาณ wifi อีกเครื่องหนึ่ง ทำให้กระเป๋าหนักขึ้น (จากที่ก็หนักมากอยู่แล้ว) และผู้ร่วมทริปจะต้องอยู่ด้วยกันถึงจะเล่นได้ ถ้าแยกกันไปคือจบเลย เลยไม่สะดวกเท่าไหร่นัก

พอมาตอนนี้ค่ายมือถือในไทยออกตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าออกมาอย่าง internet sim เพื่อไปใช้งานต่างประเทศ เราก็ต้องลองค่ะ 
ไม่ต้องรับภาระอุปกรณ์เพิ่ม เล่นอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลาแบบของใครของมัน แยกกันไปได้ และที่สำคัญราคาไม่แพง จัดไปอย่าให้เสียค่าาา


ตอนนี้ทั้ง 3 ค่ายมือถือใหญ่ในไทย ทุกค่ายก็ออก Internet sim มาแล้วทั้ง 3 ค่ายเลย


AIS Sim2fly http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/




Dtac Go Inter https://www.dtac.co.th/gointer/



True Travel sim http://truemoveh.truecorp.co.th/international_service/travelling_abroad

ในที่นี้ เราจะขอพูดถึงการใช้งานที่ "ประเทศญี่ปุ่น" เท่านั้นนะคะ

ประเทศอื่นๆ ลองเช็คดูอีกทีว่าค่ายไหนรองรับบ้างและในแพ็คเกจราคาเท่าไหร่

สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น ใน 3 ค่ายนี้ ให้ตัด true travel sim ออกก่อนเลยเป็นอันแรกค่ะ เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นไป ทรูมีการปรับแพ็คเกจของประเทศญี่ปุ่นจาก Travel sim Asia 399 บาท ไปเป็น Travel sim world 899 บาท ทำให้แพงกว่าค่ายอีก 2 ค่ายอย่างชัดเจน


*** dtac Go Inter เองก่อนหน้านี้ ช่วงประมาณเดือนธันวาคม 2560 ก็ได้ประกาศว่าไม่สามารถใช้งานญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกับ true (เดาว่าน่าจะเกี่ยวกับข้อตกลงของทางค่าย NTT Docomo ที่ญี่ปุ่น เพราะเดิมทั้ง true และ dtac จับสัญญาณค่ายนี้ทั้งคู่ค่ะ) แต่ล่าสุดเมษายน 2561 dtac กลับมาใช้งานที่ญี่ปุ่นได้แล้ว โดยจับสัญญาณกับทาง Softbank เช่นเดียวกับ AIS


อัพเดท กันยายน 2561 dtac go inter กลับมาจับสัญญาณของ NTT Docomo แล้วค่ะ

ส่วนระหว่าง AIS sim2fly กับ dtac go inter เงื่อนไขหลักๆ ตอนนี้ยังกับลอกกันมา แต่จุดตัดสำคัญน่าจะอยู่ที่จำนวนวันที่ต้องการใช้งานค่ะ


❈ แพ็คเกจการใช้งานงานอินเตอร์เน็ตทั้งสองค่ายเป็นแบบ non-stop 4GB หลังครบ 4 GB จะปรับความเร็วลงเป็น 128 Kbps เหมือนกันเป๊ะ


 ราคาเท่ากันเป๊ะๆ คือ 399 บาท

 จับสัญญาณ Softbank ทั้งสองค่าย
อัพเดท กันยายน 2561 
AIS Sim2fly จับสัญญาณของ Softbank
dtac go inter จับสัญญาณของ NTT Docomo 

 การนับระยะเวลาจะนับแบบ 24 ชั่วโมงเหมือนกันทั้งสองค่าย 

 จำนวนวัน
เริ่มต้น
AIS ใช้งานได้ที่ 8 วัน 
dtac ใช้งานได้ที่ 10 วัน

ถ้าเกินกว่านี้ ในส่วนของแพ็คเกจเสริม
AIS มีแพ็คเกจเสริม 2 แบบ คือ 
(1) แบบ 2 วัน 1 GB ราคา 119 บาท
(2) แบบ 8 วัน 4 GB ราคา 349 ลดเหลือ 299 บาท 
ส่วน dtac จะไม่มีแพ็คเกจเสริมค่ะ แต่มีคำแนะนำในหน้าเว็บว่า ถ้าไป 15 วัน ให้ซื้อไป 2 ซิม (อย่างนี้ก็ได้เหรอ?!?) 

ถ้าใครไปต่างประเทศบ่อยๆ ไม่อยากซื้อซิมทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ แนะนำ sim2fly เลยค่ะ เพราะสามารถเติมเงินเพื่อยืดอายุซิมได้ แล้วพอจะนำไปใช้งานในต่างประเทศอีกครั้งก็แค่สมัครแพ็คเกจเพิ่มเท่านั้นเอง


❈ การใช้งานโทรศัพท์

กรณีมีการใช้งานโทรศัพท์ด้วย ทั้งการรับสาย โทรกลับไทย โทรในญี่ปุ่น ค่าบริการของ AIS จะถูกกว่า dtac อย่างมีนัยสำคัญ (อัตราค่าโทรต่อนาที AIS อยู่ที่ 6 บาท dtac อยู่ที่ 26 บาทค่ะ)
เพราะฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ด้วย ไป AIS เลยค่ะ 

***แต่ถ้าใครใช้เบอร์ไทยเป็นของ dtac แล้วต้องการใช้งานโทรศัพท์ เราจะมีทางเลือกอีกทางให้ โดยสามารถใช้งานเบอร์เดิมของเราได้เลย แม้ว่าโทรศัพท์จะไม่ได้ใส่ซิมเดิมของเราอยู่ก็ตาม 
>> http://pptalkative.blogspot.com/2018/06/dtac-call.html

❈ Call center ขณะอยู่ต่างประเทศ
dtac call center ขณะอยู่ต่างประเทศ โทรฟรี 24 ชั่วโมง เบอร์ +66 2-202-8100

ส่วน AIS เดิมไม่มีเบอร์ฟรีค่ะ เสียตังค์อย่างเดียว (ซึ่งมันไม่โอเคมาก คนบ่นกันเยอะมาก เพราะคนที่ต้องติดต่อ call center ในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็คือคนที่ไม่สามารถใช้งานซิมที่ซื้อไปได้ แล้วนอกจากซิมที่เสียเงินซื้อไปใช้งานไม่ได้แล้ว ยังต้องเสียเงินโทรหา call center เพื่อหาทางแก้ไขเองอีกต่างหาก)
แต่ล่าสุดสดๆร้อนๆ ฟรีแล้วค่าาาา ในที่สุดคำคอมเพลนก็ไปถึงหู AIS จนได้ 
AIS call center ขณะอยู่ต่างประเทศ เบอร์ +66 2-271-9000 
** เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ในแพ็คเกจ Sim2Fly บางอันจะแจ้งว่ามีค่าบริการอยู่ แต่จริงๆคือโทรได้ฟรีแล้วค่ะ

 สถานที่ซื้อซิม
สามารถเช็คศูนย์บริการที่มีจำหน่ายได้จาก website ด้านบนเลยค่ะ

(เดิมของ AIS จะหาซื้อง่ายกว่าของ dtac ค่ะ แต่ปัจจุบัน หาซื้อได้ไม่ยากทั้งคู่แล้วค่ะ)

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ ถ้าเตรียมไปได้ก่อนก็เตรียมไปก่อนนะคะ อย่าไปหวังซื้อที่สนามบิน เพราะทริปฮ่องกงเมื่อปลายปีก่อนโน่น เราไปซื้อ sim2fly ของ AIS ที่สนามบินสุวรรณภูมิ รอนานมากกกกกก คิวยาวมากทั้งคนไทยและต่างชาติ เข็ดเลยค่ะ

 อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ทั้งสองค่าย มีที่จิ้มซิมแถมมาให้ด้วยค่ะ สะดวกดี แต่ที่จิ้มซิมของฝั่ง dtac ดูคุณภาพดีกว่าของ AIS อยู่มาก (แต่ใช้งานได้ทั้งคู่ค่ะ ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน) 
เพิ่มเติมคือ dtac จะมีซองเล็กๆ สำหรับใส่ที่จิ้มซิมและใส่ซิมได้อีก 2 ช่องให้ด้วย ซึ่งชอบค่ะได้ใช้ประโยชน์จริง

อันนี้เป็นหน้าตาของ dtac go inter ที่ใช้ในทริปปลายปีที่แล้ว ตอนนั้นจะมีแถมซองซิปใสให้ด้วย แต่เข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ 

❈ ในส่วนของการใช้งานจริง เราเคยใช้งานทั้งของ dtac go inter (ตอนปลายปีที่แล้วที่ยังจับสัญญาณกับ NTT Docomo) และ AIS sim2fly (ล่าสุดคือเมษายนปีนี้) สามารถใช้งานได้ดีค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีช่วงรถไฟวิ่งเร็วๆหรือเข้าอุโมงค์ ขึ้น no service เป็นระยะท้ังสองค่ายค่ะ

[แต่เดิม ถ้าออกไปนอกเมืองมากๆ สัญญาณฝั่ง NTT Docomo เหนือกว่าฝั่ง Softbank อยู่นิดหน่อยค่ะ ไม่มีนัยสำคัญอะไร แต่เนื่องจากตอนนี้ทั้งสองค่ายมาจับสัญญาณ Softbank เหมือนกัน เรื่องนี้ก็ตกไปค่ะ]


สรุปว่า
ใครมีความจำเป็นต้องใช้งานโทรศัพท์ร่วมด้วย ไป AIS ค่ะ อัตราค่ารับสายและโทรออกของ sim2fly ถูกกว่าฝั่ง dtac do inter มาก 
ส่วนใครที่ไม่ได้ต้องการใช้งานโทรศัพท์จากตัว internet sim เช่น อาจไม่ต้องการใช้งานโทรศัพท์เลย หรือมีวิธีการอื่นในการใช้โทรศัพท์แทนที่จะโทรจากตัว internet sim ให้ดูจำนวนวันที่เดินทางท่องเที่ยวเป็นหลักค่ะ 
ถ้าไปไม่เกิน 8 วัน เลือกเอาได้ตามสะดวกเลยค่ะว่าอยากใช้ค่ายไหน
ถ้าไป 9-10 วัน ไป dtac ค่ะ 
ถ้าไปเกินจากนี้ ลองคำนวณเองกันอีกทีนะคะ เช่น ไป 15 วันอาจใช้เป็น sim2fly ร่วมกับแพ็คเกจเสริม 8 วัน แบบนี้จะถูกกว่าใช้ dtac go inter 2 ซิมค่ะ

กรณีเดินทางต่างประเทศเป็นประจำ แนะนำให้มี sim2fly เก็บไว้สักอัน แล้วคอยเติมเงินไม่ให้ซิมขาด พอจะใช้งานในต่างประเทศก็สามารถซื้อแพ็คเกจเสริมได้เลย ไม่ต้องเสียเงินค่าซิมใหม่ทุกครั้งค่ะ



3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ review ดีมากๆ เป็นข้อมูลตัดสินใจ เพราะอ่านจากหน้าเวปของเจ้าของสินค้าบางทีไม่เข้าใจ

    ตอบลบ
  2. ละเอียดมากๆ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีครับ

    ตอบลบ