26 มกราคม 2558

Day 8-11: Tokyo (2) - Kawasaki

Day 1: Osaka กุหลาบงามกลางเดือนพฤษภาคม
Day 2: Osaka Amazing Pass
Day 3-4: Kyoto Aoi Matsuri
Day 5: Nara and Night bus to Kawaguchiko
Day 6: Kawaguchiko มาปั่นจักรยานกันเถอะ
Day 7: Fuji Shibazakura Festival
Day 8-11: Tokyo (1)
Day 8-11: Tokyo (2) - Kawasaki

∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇∆∇

บล็อกนี้จะเป็นบล็อกสุดท้ายสำหรับทริป Japan 2014 ของเราแล้วนะคะ 
การไปเมือง Kawasaki เป็นการเที่ยวใน Day 9 ของเรา แต่เนื่องจาก Day 8, 10 และ 11 เราไปรวมไว้ในบล็อกก่อนหน้านี้หมดแล้ว บล็อกนี้เลยกลายมาเป็นบล็อกสุดท้ายแบบงงๆ

วันนี้เราจะออกนอกเมืองโตเกียวกัน 
เป้าหมายของเราอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Fujiko F. Fujio หรือพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน ที่เมือง Kawasaki

Fujiko F. Fujio Museum




website >> http://fujiko-museum.com/english/

สำหรับการซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Fujiko F. Fujio หรือพิพิธภัณฑ์โดราเอมอนนี้ สามารถซื้อได้ที่ร้าน Lawson จากตู้ Loppi

ตอนซื้อเราจะต้องระบุวันและรอบเวลาที่เราจะเข้าชมด้วย 
โดยเราสามารถตรวจสอบวันที่พิพิธภัณฑ์ปิดทำการได้จาก http://fujiko-museum.com/english/calendar/
ปกติจะหยุดทุกวันอังคาร แต่ถ้าวันอังคารเป็นวันหยุดราชการอยู่แล้วก็จะหยุดในวันถัดไปค่ะ
ในแต่ละวันจะมีรอบเวลา 4 รอบ คือ 10.00 12.00 14.00 และ 16.00 น.
ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่ คือ คนละ 1000 เยน

ตัวตู้ Loppi จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นนะคะ ถ้าใครสกิลภาษาญี่ปุ่นเป็นศูนย์แบบเรา ลองถามพนักงานดูนะคะ ให้เค้าช่วยจองให้ได้ หรือถ้าใครอยากซื้อบัตรตั้งแต่ก่อนไป เราเห็นในอินเตอร์เน็ตมีคนรับจองให้อยู่เหมือนกันค่ะ 
ตอนเราไป หน้าเว็บไม่มีสอนวิธีกดตู้เป็นภาษาอังกฤษเลย แต่ล่าสุดตอนนั่งเขียนบล็อคนี้เราลองเข้าไปดูในเว็บอีกที พบว่ามีอยู่นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าละเอียดพอที่เราจะสามารถกดตู้ได้เองหรือไม่ ลองดูค่ะ >> http://l-tike.com/fujiko-m/english/

การเดินทาง
สามารถไปได้หลายทาง




สำหรับเรา เราเลือกนั่งไปรถไฟไปลงที่ Noborito station แล้วนั่ง shuttle bus ต่อไปยังตัวพิพิธภัณฑ์ค่ะ เราจำค่ารถไม่ได้ เนื่องจากใช้บัตร suica แตะเพื่อจ่ายเงิน
Shuttle bus จะเป็นลายการ์ตูน มีหลายลายเลย ถ้าโชคดีอาจจะได้เจอคันที่เป็นลายโดราเอมอนเลย

วันที่เราไป อากาศค่อนข้างแย่มาก ฝนตกตลอดเวลา หนักๆเบาๆ สลับๆกัน ทำให้อากาศหนาวมากกก ตอนไปยืนรอ shuttle bus นี่หนาวจนสั่นเลย

ในส่วนของตัวพิพิธภัณฑ์ จะมีทั้งส่วนที่ถ่ายรูปได้และถ่ายรูปไม่ได้
พิพิธภัณฑ์นี้จะเป็นการรวบรวมผลงานของอาจารย์ Hiroshi Fujimoto ผู้วาดการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนที่ทุกคนรู้จักนั่นเอง
แต่ขออนุญาตไม่สปอยนะคะว่ามีอะไรบ้าง ลองไปดูเองดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้ลลล ^-^




ที่เห็นในรูปว่าไม่มีคน ไม่ใช่อะไรค่ะ ฝนตกอยู่ แต่ฝนเป็นละอองเส้นเล็กมากๆ เวลาถ่ายรูปออกมาเลยมองไม่ค่อยเห็น

ภายในพิพิธภัณฑ์ นอกจากจะมีการแสดงผลงานของอาจารย์ Fujimoto แล้ว ยังมีส่วนที่เป็นคาเฟ่และร้านขายของที่ระลึกด้วย

จริงๆ มีของที่อยากได้เยอะเลย แต่สุดท้ายยอมตัดใจ เพราะรู้ว่าถึงซื้อกลับมา มันก็จะต้องไม่แคล้วโดนฝุ่นเกาะอยู่ในตู้โดยที่ไม่มีใครไยดีแน่ๆ เลยซื้อมาแค่โปสการ์ดแผ่นเดียว กับไปเล่นกาชาปองเป็นของฝากให้เพื่อนๆ ที่เมืองไทย
เราเล่น 3 ครั้ง กว่าจะได้ตัวโดราเอมอน แถมครั้งที่ได้ เพื่อนเป็นคนเล่นให้อีกต่างหาก
ส่วนเพื่อนเรา นางเล่น 2 ครั้ง ได้โดราเอมอน 2 ตัวเลย (นางมีดวงด้านนี้จริงๆ)


ออกจากพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน เรากับเพื่อนก็นั่ง Shuttle bus กลับไปที่ Noborito station (จริงๆ แล้ว อยากเดินอยู่นะคะ แต่ฝนยังตกอยู่ เลยนั่งรถดีกว่า)

วันนี้ เราไม่มีแพลนอะไรกันแล้ว แต่ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งวันแน่ะ
ระหว่างอยู่ที่สถานี Noborito station เพื่อตัดสินใจว่าจะไปไหนต่อดีกันนั่นเอง เพื่อนเราก็เข้าไปในเว็บ Tripadvisor ลอง search สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนั้นดู ก็เลยไปค้นพบสถานที่แห่งหนึ่ง 
รีวิวใน Tripadvisor ส่วนใหญ่เห็นมีแต่ฝรั่งไป แล้วรีวิวออกมาค่อนข้างดีเลย คนชอบกันเยอะ สุดท้ายเรากับเพื่อนก็เลยตัดสินใจจะไปกัน

Nihon Minka-en หรือ Japan open-air folk house museum

ระหว่างที่อยู่ใน Noborito station นี้ ฝนเริ่มซา ดูจากระยะทางแล้ว คิดว่าน่าจะพอเดินได้ เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจเดินกันค่ะ 
จากสถานีใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที
(จริงๆ ถ้าเดินไปจาก Fujiko F. Fujio museaum จะใกล้กว่าเดินไปจาก Noborito station อีก เหอะๆ ค้นพบช้าไปหน่อยนึง)


ระหว่างทางเดินไปก็จะเจอป้ายที่พื้นแบบนี้ แสดงว่ามาถูกทางแย้วววว

ส่วนการเดินทางจริงๆ แบบสามารถเตรียมตัวมาก่อนได้ มีหลายวิธีลองเลือกกันได้ตามสะดวก



ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ โดยเค้าจะจำลองบ้านญี่ปุ่นจากภูมิภาคต่างๆ รวมกันไว้ เนื้อที่ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เรากับเพื่อนเดินไม่ทั่ว เพราะกว่าจะไปถึงก็ 4 โมงนิดๆแล้ว และที่นี่ปิดเวลาประมาณ 5 โมง

วันที่เราไป เงียบมากกกกกกกกกกกก (ก. ไก่ล้านตัว)
มีเรา เพื่อน คุณลุง รปภ. และคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นอีก 1 คู่ นอกนั้นไม่มีใครเลย ท่ามกลางพื้นที่อันกว้างขวาง
แถมพอเดินๆ ไปก็เหลือเรากับเพื่อนกันสองคน บรรยากาศวังเวงเล็กๆ (เพราะเริ่มเย็นแล้ว) สถานที่นี้เป็นของเราสองคนจริงๆค่ะ 





ภายในตัวบ้านบางหลังจะมีการจัดพวกของใช้ เตา อะไรแบบนี้ไว้ด้วยค่ะ 
ได้บรรยากาศมาก เราชอบที่นี่มากกว่า Museum of Housing and living ที่โอซาก้ามากๆ อันนั้นดูเฟคๆ อันนี้ดูจริงกว่ากันเยอะะะ คุ้มค่าเข้าชม 500 เยนมากๆ
ไม่รู้จะบรรยายยังไงจริงๆ เป็นการมาที่นี่แบบฟลุ๊คๆ แล้วประทับใจ 555+

ใครที่มาเมืองนี้เพื่อชมพิพิธภัณฑ์โดราเอมอนอยู่แล้ว และมีเวลาเหลือ แนะนำให้มาที่นี่ด้วยค่ะ อย่าได้พลาด

ติดกันจะมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อยู่ด้วย แต่แน่นอนว่ากว่าเราจะเดินออกจาก Nihon Minka-en มันก็ปิดแล้ว ถ้าใครมีเด็กๆ มาด้วยอาจจะลองเข้าไปดูได้ค่ะ

เราขอปิดทริป Japan 2014 ของเราตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ 



เจอกันอีกทีทริปหน้า Japan 2015 คราวนี้เราจะไปตามหาซากุระตอนเดือนเมษากัน
โดยครั้งหน้า เราจะไปซ้ำที่ Kansai อีกรอบนึง เป็นเวลา 7 วันเต็ม และแน่นอนว่ารอบหน้าจะต้องไป Himeji castle ที่กำลังจะรีโนเวทเสร็จสมบูรณ์ในปลายเดือนมีนาคม 2015 และ Universal Studio Japan ที่ตอนนี้เปิดโซน Harry Potter อย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

p.s. เราหลงรักเกียวโตมากๆ ชอบคันไซมากกว่าคันโต ถ้ายกภูเขาไฟฟูจิมาไว้ที่นี่ได้อีกอย่างจะ perfect มากเลย <3 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น